เปลี่ยนมุมมอง

1.ถ่ายจากด้านบ ถ่ายรูปจากด้านบนจะทำให้ได้มุมมองที่น่าสนใจขึ้น ช่วยเน้นดวงตา ทำให้ใบหน้าและคอดูเล็กเรียว
· แต่ถ้าถ่ายเสยจากด้านล่าง จะทำให้ดูยิ่งใหญ่ น่าเกรงขามขึ้น แต่ระวังคางกับจมูกจะใหญ่น่าดู ไม่ใช่ทุกคนที่เหมาะกับเทคนิคนี้
· แค่ถือกล้องเหนือระดับสายตาขึ้นไปนิดเดียวก็พอ



2.เล่นกับแสงเงา ดูหน้าตัวเองในกระจกหรือกล้อง (หรือลองถ่ายหลายๆ มุม) ว่าด้านในมีเงาทาบทับเพราะอยู่ไกลแสงกว่า ให้ถ่ายจากมุมที่หน้ามืดกว่า จะได้ออกมาดูอาร์ตๆ แถมดูผอมลงด้วย แต่เทคนิคนี้อาจไม่เหมาะเวลาถ่ายกลางแจ้ง



3. ถ่ายให้มันอาร์ตๆ ลองถ่ายรูปให้มันแปลก เช่น
· ถ่ายหน้าด้านข้าง
· ถ่ายแค่ครึ่งหน้า ซ้ายหรือขวาก็ตามชอบ
· ซูมเฉพาะตา ปาก หรือแก้ม



4.อย่าอยู่กลางรูป ตากล้องมืออาชีพจะใช้กฎที่เรียกว่า rule of thirds กัน คือดวงตาควรอยู่ 1/3 จากข้างบน และเอียงไปข้างใดข้างหนึ่งของรูป จะทำให้รูปออกมาน่าสนใจกว่า แถมได้มุมสวยขึ้นด้วย



5.อย่าถ่ายใกล้หน้าเกินไป เลนส์กล้องจะทำให้อะไรก็ตามที่อยู่ใกล้ออกมาผิดเพี้ยนไป โดยเฉพาะการถ่ายเซลฟี่ การถือกล้องหรือมือถือยื่นออกไปไม่เกิน 1 ช่วงแขน จะทำให้รูปออกมาจมูกโตกว่าตัวจริง
· ถ้าอยากถ่ายแบบ close-up ให้ซูมเข้ามานิดหน่อย แล้วถือกล้องห่างๆ หน้า หรือถ่ายไกลๆ เลยก็ได้ แล้วค่อย crop รูปเอาให้เหมือนถ่าย close-up แต่แรก
ถ้ากล้องตั้งเวลาถ่ายได้ ให้วางบนอะไรสักอย่าง ตั้งเวลา แล้วถอยห่างออกไป รูปจะออกมาดูดีกว่าเซลฟีเองเยอะเลย



6. ใช้กล้องหลังเถอะ ถึงเซลฟี่ด้วยกล้องหน้าจะสะดวกกว่า แต่กล้องหลังของสมาร์ทโฟนจะถ่ายรูปออกมาคมชัดคุณภาพดีกว่าเยอะเลย



7.เอากระจกตั้งใกล้กล้อง จะได้รู้ว่าทำหน้ายังไงอยู่ ให้วางไว้หลังกล้องหรือมือถือ เท่านี้ก็ถ่ายออกมาได้สวยสมใจ



8.ให้คนอื่นถ่ายให้ ให้คนอื่นถ่ายให้นี่แหละสะดวกและออกมาดีกว่า เพราะจะโพสท่าทางได้ตามสะดวก ไม่พะวงว่าต้องถือกล้องห่างแค่ไหน
· ให้เพื่อนช่วยถ่ายให้ อาจจะมีล้อมีอำกันบ้างเวลาถ่าย แต่สุดท้ายผลัดกันถ่ายนี่แหละสะดวกสุด
ปรับท่าทาง



1.ระวังคาง 2 ชั้น ป้องกันได้โดยยืดคอแล้วเชิดหน้าให้คางห่างจากคอ ตอนทำอาจรู้สึกไม่ค่อยมั่นใจ แต่บอกเลยว่าออกมาดูดีกว่าแน่นอน



2.อกผายไหล่ผึ่ง หลังงอห่อไหล่ถ่ายยังไงก็ไม่สวย เพราะงั้นต้องอกผายไหล่ผึ่ง จะทำให้ดูสง่า แถมรูปออกมาดูดีกว่าที่เคย เอียงตัวหรือโยกไหล่ไปทางอื่นบ้างก็ดี จะได้ไม่เหมือนถ่ายรูปติดบัตร



3.ปรับทัศนคติ ถ้าเอาแต่ถ่ายแล้วลงแต่รูปเซลฟี่แบบจริงจังเป็นทางการ คนเขาจะมองว่าเข้าถึงยากเอา ลองเปลี่ยนไปสายฮาบ้าๆ บอๆ บ้าง ตอนผ่อนคลายอารมณ์ดีแล้วนึกสนุกถ่ายเซลฟี่แบบไม่ได้เตรียมตัวขึ้นมา รูปที่ได้จะมีเสน่ห์กว่าเยอะเลย



4.ลองหันหน้าทำท่าอื่น นอกจากหน้าตรงแล้ว ลองเปลี่ยนมุมหันหน้าจัดท่าทางอื่นบ้างทั้งซ้ายและขวา จะได้รู้ว่า “มุมสวย” อยู่ตรงไหน ถ้าบิดตัวจัดท่าทางบ้างเวลาถ่ายรูปเต็มตัว จะดูผอมและมีทรวดทรงกว่าเยอะเลย



· ตายังโดดเด่นได้ แค่ลืมตาโตๆ แล้วช้อนมองขึ้นด้านบน หรือเหลือบไปทางด้านข้าง
· มองบนเยอะๆ เข้าไว้ ถ้าเหลือบขึ้นไปจากเลนส์นิดๆ จะดูเหมือนคุณไม่แน่ใจว่ากำลังทำอะไรอยู่ แต่ถ้ามองบนแรงๆ สักฟุตหนึ่งขึ้นไปจากกล้อง จะดูมั่นใจ มีเป้าหมายกว่า



6.มีอารมณ์ร่วม ถ้ายิ้มฝืนๆ จะออกมาดูหน้าตึงๆ เพราะงั้นถ้าอยากได้รูปสวยพร้อมรอยยิ้มพิมพ์ใจ ก็ต้องนึกถึงเรื่องอะไรสนุกๆ ฮาๆ
· ถ้าอยากหน้าตาดูดีมีความสุข ก็ต้องยิ้มทั้งสีหน้าและแววตา ไม่ใช่แค่ที่ปาก ซึ่งก็ต้องรู้สึกมาจากข้างใน
· ไม่จำเป็นว่าต้องถ่ายรูปยิ้มกว้างอย่างเดียว ถ้าอยากแสดงอารมณ์อื่นๆ เช่น ขรึม ซึม เซ็กซี่ ครุ่นคิด ว้าวุ่น หรืออะไรก็แล้วแต่ ก็ถ่ายไปตามสะดวก



7.แต่งตัวตามโอกาส ต้องคำนึงถึงโอกาสและชุดที่จะใส่
· ถ้าเป็นรูปทางการ ใช้สมัครงานหรือติดต่อสื่อสารด้านธุรกิจ ขอให้เลือกชุดเรียบหรูดูโปร เนี้ยบเข้าไว้
· ถ้าจะเอารูปไปใช้เป็นโปรไฟล์ในเว็บหาคู่ ก็ให้ใส่ชุดสีสันสดใส ดูกันเองน่าคบหาสมาคม ทรงผมก็ดูสบายๆ อย่าดูโทรมหรือดูพยายามมากไป
ถ้าจะโพสต์ใน social media ก็ต้องคิดก่อนว่าอยากให้เพื่อนๆ ในนั้นมองว่าคุณเป็นคนแบบไหน ให้แต่งตัวตามสไตล์



8.ไม่ต้องปากจู๋ทุกรูป เดี๋ยวนี้พอเซลฟี่เมื่อไหร่ หลายคนเป็นต้องปากจู๋ทำหน้า duckface จนดูน่าเบื่อ ถ้าอยากได้รูปสวยโดดเด่น ให้แสดงสีหน้าตามจริงจะน่ามองกว่า
หาฉากสวยๆ



1.ใช้แสงธรรมชาติ รูปจะออกมาสวยกว่า ถ้าเป็นไปได้ ให้เลือกวันที่ฟ้าครึ้มๆ หน่อย คือมีแสงอ่อนๆ พอสวยและไม่ร้อน
· ถ้าถ่ายในร่ม พยายามถ่ายข้างหน้าต่าง ให้แสงส่องผ่านกระจกเข้ามา (อย่าให้แดดจ้าสาดมาตรงๆ)
· ถ้าจำเป็นต้องใช้แสงจากหลอดไฟ อย่าใช้ฟลูออเรสเซนต์หรือไฟนีออนที่เพดาน ให้ปิดไฟเพดานแล้วใช้โคมไฟจะแสงสวยกว่า
· ถ้ามุมที่จะถ่าย แสงส่องลงมาตรงๆ (ไม่ว่าจะแสงธรรมชาติหรือจากหลอดไฟ) แบบหลีกเลี่ยงไม่ได้ ให้ตบแฟลชแทน จะได้ไม่มีเงาพาดใต้จมูกและดวงตา



2.ระวังฉากหลัง ถ้าพลาดนี่นอกจากอายแล้วยังกลายเป็นเน็ตไอดอลในทางเสียๆ หายๆ แบบไม่ทันตั้งตัว
· ห้องนอนรกๆ และห้องน้ำเลอะๆ คือ 2 ฉากที่ไม่ควรใช้ แต่กลับเป็นสถานที่ยอดนิยมที่คนส่วนใหญ่ใช้เซลฟี่ ทั้งที่ไม่มีใครอยากเห็นโถส้วมที่ไม่ได้ขัดมาหลายวัน
ถ้าคุณอยู่ในร่ม ให้หาพื้นหลังโล่งๆ อย่างกำแพงหรือหน้าต่าง



· โพสท่าโดยใช้ประตูเป็นกรอบ
· ถือกล้องด้วย 2 มือแล้วยืดแขน
· ยืนตรงกลางระหว่างของ 2 อย่าง เช่น ต้นไม้หรือพุ่มไม้นอกบ้าน
· เท้าคางหรือเอามือรองหน้า ให้เป็นกรอบขึ้นมาด้านล่าง
แต่งรูปหลังถ่าย



1.ซูมเข้าไป ถ้ามีบางส่วนของหน้าหรือตัวที่อยากเน้นให้เด่นเป็นพิเศษ ก็เข้าโปรแกรมแต่งรูปแล้วซูมให้เห็นแต่ส่วนนั้น จากนั้นก็เซฟเป็นรูปใหม่ เดี๋ยวนี้แต่งได้ทั้งในคอมและสมาร์ทโฟน แถมแต่ละโปรแกรมหรือแอพก็ใช้ง่ายทั้งนั้น



2.crop ส่วนที่ไม่ต้องการ ถ้าตรงไหนของรูปไม่ถูกใจ ก็ crop หรือตัดออกไป อย่างถ้าถ่ายรูปโดยใช้มือข้างเดียว ก็ให้ crop แขนที่ยื่นอยู่ในรูปออกไป จะได้ดูรูปใหญ่ขึ้น หรือถ้าผมกระเซิงเหลือเกิน ก็ crop ออกได้เหมือนกัน ไม่จำเป็นต้องลงรูปอย่างที่ถ่ายมาหรอก เดี๋ยวนี้ใครๆ เขาก็แต่งรูปก่อนโพสต์ทั้งนั้น



3.ใช้ filter เดี๋ยวนี้ช่องทางโพสต์และแชร์รูปต่างๆ ก็มี filter ให้เลือกใช้ก่อนลงรูปอยู่แล้วก็แต่งรูป แต่งสี หรือปรับความสว่างกันตามสะดวก ลองใช้ดูหลายๆ filter จนกว่าจะได้รูปที่ออกมาสวยสมใจที่สุด



4.แต่งรูป นอกจากแอพหรือโปรแกรมแก้ไขรูปแล้ว ยังมีแอพสำหรับแต่งรูปเซลฟี่โดยเฉพาะเช่น ลบสิวฝ้า เงาสะท้อนแดงๆ ในตา กระทั่งปรับสีผิว แต่งหน้า และอื่นๆ มากมาย



5.ทำเบลอ หลายคนถ่ายรูปแล้ว ‘กลัวเบลอ’ แต่จริงๆ แล้วถ้าเบลอเล็กน้อยอย่างมีสไตล์ จะทำให้รูปดูมีอะไรขึ้นได้ โดยคมชัดแล้วเบลอเฉพาะจุด จะได้ดึงความสนใจไปที่ส่วนที่อยากจะเน้น แถมใช้กลบเกลื่อนจุดด่างดำหรือพื้นหลังที่ไม่ค่อยเนี้ยบได้ด้วย
อ้างอิง